messager
chevron_right เที่ยวชมประวัติศาสตร์
เที่ยวชมประวัติศาสตร์

เที่ยวชมประวัติศาสตร์
การศึกษาประวัติศาสตร์บนเขาค้อ พร้อมกับซึมซาบความงดงามของภูมิประเทศ จะยิ่งทำให้การท่องเที่ยวบนเขาค้อมี คุณค่า และซาบซึ้งใจมากขึ้น เพราะบรรพบุรุษของเรา ได้ต่อสู้กับผู้ไม่หวังดีต่อชาติ จนได้รับชัยชนะ และทิ้งอนุสรณ์สำคัญไว้ที่นี่ ทำให้ไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในอินโดจีน ที่ไม่ถูกกลืนเป็นคอมมิวนิสต์ไปเหมือนเพื่อนบ้าน สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ได้แก่
1. อนุสรณ์สถานผู้เสียสละ เขาค้อ

อนุสรณ์สถานผู้เสียสละ เขาค้อ
อนุสาวรีย์ สำคัญที่บันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์การต่อสู้ระหว่างรัฐบาล กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ที่ยึดพื้นที่บริเวณเขาค้อ เป็นฐานปฏิบัติการ ระหว่างปี 2511 – 2525 ซึ่งหลังจากการปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดในปี 2524 ทำให้เกิดความสงบสุขกับเขาค้อในปีต่อมา และเป็นการสิ้นสุดของยุคคอมมิวนิสต์บนแผ่นดินไทย โดยสิ้นเชิง สมควรที่อนุชนรุ่นหลัง ควรได้ศึกษา และให้ความเคารพกับผู้เสียชีวิต ผู้เสียสละเพื่อแผ่นดิน ในยุทธการร่วมปราบปรามคอมมิวนิสต์ครั้งใหญ่นี้ ซึ่งประกอบด้วยชนทุกหมู่เหล่า ตำรวจ ทหาร ราษฎรอาสา
2. พิพิธภัณฑ์อาวุธ ฐานอิทธิ

พิพิธภัณฑ์อาวุธ ฐานอิทธิ
พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) ตั้งชื่อตาม พันเอก อิทธิ สิมารักษ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ยึดพื้นที่เขาค้อคืนจาก ผกค.ในปี พ.ศ.2524 พิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่ส่วนบนก่อนถึงยอดเขาค้อ ซึ่งบริเวณนี้เคยเป็นฐานปืนใหญ่ ยิงสนับสนุนการ สู้รบ ปัจจุบันจัดให้ เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มีอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ใช้ในการสู้รบตั้งอยู่มากมาย เช่น เครื่องบินขับไล่ เอฟ 5 รถสายพานลำเลียงพล ปืนใหญ่ ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. จำนวน 2 กระบอก ปืนใหญ่ ขนาด 155 มม. ยิงได้ไกล 11 กิโลเมตร 1 กระบอก เฮลิคอปเตอร์ รถถัง รถแทรกเตอร์ บังเกอร์หลบภัย ฯลฯ แต่ละจุดมีป้ายประวัติ พร้อมคำอธิบายประกอบ ส่วนภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ มีห้องบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ ในยุทธภูมิเลือดเขาค้อ มีห้องจัดนิทรรศการ เกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องใช้ เสื้อผ้า อาวุธของคอมมิวนิสต์ให้รับชมด้วย เปิดเวลา 07.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชม 10 บาท
3. หอสมุดนานาชาติ

หอสมุดนานาชาติ
ชื่อหอสมุดนานาชาติ มีที่มาจากการที่บรรดาทูตานุทูตต่างประเทศจำนวนมาก นำหนังสือมาบริจาคเก็บไว้ เพื่อให้คนไทยได้ศึกษา จึงเรียกกันว่า หอสมุดนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีหนังสือวิชาการต่างๆ ของไทยอีกจำนวนมาก มีวัตถุโบราณร่วมสมัยที่หาชมได้ยากหลายรายการ รวมทั้งฟอสซิลปลาของเพชรบูรณ์ ที่มีอายุมากกว่า 140 ล้านปี ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าซึ่งนำมา จากประเทศศรีลังกา ซึ่งประเทศศรีลังกาได้นำมาถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสฉลอง สิริราชสมบัติครบ 50 ปี พร้อมกันต้นศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ถือเป็นเป็นสิ่งสักดิ์สิทธิ์ที่ควรแก่การมาสักการะบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล ด้วย บริเวณรอบหอสมุด จัดตกแต่งเป็นอุทยานดอกไม้ ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ยืนต้น นานาชนิด ทั้งไม้เมืองหนาว ไม้เมืองร้อน มีความสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้ตลอดทุกฤดูกาล ทั้งฤดูร้อน ฝน และหนาว โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่ไม้ดอกเมืองหนาวพากันออกดอก บานสะพรั่งเป็นที่สวยงามมาก ดอกไม้เด่นๆ ได้แก่ กุหลาบดำจากประเทศอิสราเอล ที่ความเข้มของสีดอกจะขึ้นกับอุณหภูมิ ยิ่งอากาศ ยิ่งอากาศเย็นมากดอกจะยิ่งมีสีดำมากขึ้น นอกจากนี้ยังจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ไม้ดอกนานาชนิดในราคาถูกอีกด้วย
4. พระตำหนักเขาค้อ

พระตำหนักเขาค้อ
พระตำหนักเขาค้อ เป็นพระตำหนักที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่บนเขาย่า สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,100 เมตร จัดสร้างโดยบรรดาข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ภายหลังการต่อสู้ด้วยอาวุธกับ ผกค. สิ้นสุดลงแล้ว จึงได้รวบรวมทุนทรัพย์ ริเริ่มการก่อสร้าง พระตำหนักเขาค้อ ขึ้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในพื้นที่ และเป็นที่ทรงงาน และแปรพระราชฐานมาประทับแรม ในวโรกาสที่พระองค์ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จมาตรวจเยี่ยมโครงการตามพระราชดำริ ในพื้นที่เขาค้อ
5. เจดีย์กาญจนาภิเษก

เจดีย์กาญจนาภิเษก
พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ตั้งอยู่บนเขาค้อ ริมทางหลวงหมายเลข 2196 อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเขาค้อไปทางทิศเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก อยู่ติดถนนด้านขวามือ เป็นเจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งแบบสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปให้ประชาชนได้สักการะบูชา ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอัฐธาตุของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานให้กับประชาชนในพื้นที่ หลังจากยุติการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย การ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ ณ พื้นที่เขาค้อแห่งนี้ เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ในอดีตเคยเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบ ระหว่างคนไทยด้วยกันเองมานาน จนทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต และเลือดเนื้อจำนวนมาก ยังเศร้าโศกเสียใจให้กับคนไทยทั้งชาติ และเมื่อการสู้รบยุติลง ความสงบสุขร่มเย็นก็เริ่มบังเกิดขึ้น ราษฎรในพื้นที่ได้รับการส่งเสริม ให้มีที่ทำกินเป็นของตนเอง มีการพัฒนาอาชีพทางการเกษตร ราษฏรในพื้นที่เขาค้อ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเป็นลำดับ มีรายได้เพียงพอต่อการครองชีพ และที่สำคัญราษฎรมีความรัก และหวงแหนในแผ่นดิน ที่แลกมาด้วยชีวิตเลือดเนื้อ และหยาดน้ำตาของทหารหาญและพี่น้องคนไทยจำนวนมาก
6. น้ำตกศรีดิษฐ์

น้ำตกศรีดิษฐ์
น้ำตกหินชั้นขนาดใหญ่ มีน้ำตกตลอดทั้งปี เดิมเคยเป็นที่อยู่ของกลุ่ม ผกค. เนื่องจากเป็นบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ และอยู่ในป่าที่ค่อนข้างลึก เหมาะสำหรับการหลบซ่อนตัว กลุ่มผกค.จึงยึดเอาน้ำตกศรีดิษฐ์ เป็นที่อยู่ ที่กิน สำหรับการดำรงชีวิตในป่า ซึ่งยังปรากฎหลักฐาน และสิ่งของเครื่องใช้หลายอย่างของอยู่ในบริเวณน้ำตก เช่นครกตำข้าวขนาดใหญ่ที่ ผกค. สร้างขึ้นโดยใช้พลังน้ำตกช่วยเคลื่อนกังหันตำข้าว เป็นต้น บริเวณน้ำตก มีร้านอาหาร และร้านค้าของชาวเขา ซึ่งนักท่องเที่ยวมักใช้เป็นแหล่งพักผ่อน ทานอาหาร ปิคนิค และซื้อของที่ระลึกจากชาวเขา ซึ่งมีทั้งเสื้อผ้าจากหมู่บ้านชาวเขาโดยตรง หมวกไหมพรมกันหนาว ตลอดจนตุ๊กตา และของเล่นพื้นเมือง
ข้อมูลจาก